28 กุมภาพันธ์ 2556

ก้าวที่ 4.3 English Village


แผนการเดินทางรวนๆนั้น อย่างหนึ่งที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

ด้วยเนื่องจากเคยโดนหลอกว่าจะได้ไปแล้วไม่ได้ไป มาครั้งนี้.....จึงเดินทางเอง (ก็ได้วะ)


English Village Yangpyeong Camp

เริ่มจากสาย Jungang สีฟ้าอ่อน ไปลงที่สถานี Yongmun

แล้วต่อรถแท็กซี่อีก 20 นาที

โรงเรียน F4 ชินฮวาไฮสกูลของ จีฮูซอนเบ คนดีนั่นเอง อ๊ายยย >///<

มาเองก็ได้ฟะ ไม่ง้อทัวร์แล้ว (แต่ได้ข่าวว่าย่างเข้าปี 2012 นี่ต้องง้อแล้วนะ

เขาไม่เปิดให้เข้าเองแล้วเพราะรบกวนโรงเรียน อยากเข้าต้องไปกับทัวร์แล้วล่ะ)

การมาเรียนของพี่จีฮูนั้น เหนื่อยมากนะ เพราะมันช่างไกลมากจริงๆ

เรานั่งรถไฟกระฉึกกระฉักมาเรื่อยๆ รถก็แน่นยืนจนเมื่อยขา เพราะเป็นวันเสาร์

เหล่าคุณลุงคุณป้าเลยเต็มไปหมด ทุกคนแต่งตัวพร้อมไปปีนเขาที่ชานเมือง

ผู้สูงอายุที่นี่แข็งแรงจริงๆ คนเกาหลีก็ชื่นชอบการปีนเขาจริงจังนะ

ออกรถไฟมาได้เกือบเที่ยง ไกลจนท้องหิว

เราเลยแวะหาอะไรกินกันก่อนแถวหน้าสถานี

ร้านนี้ขายอะไรมากมายไม่รู้สั่งไปเรื่อยเปื่อย อร่อยดี อาจุมม่าใจดีด้วย

กินเสร็จยื่นปากกาให้เซ็นข้างกำแพงเราก็เขียนลงไป พันยาดั๊บมาแล้วจ้า 5555

แล้วเรียกแท็กซี่เพื่อไปส่งที่โรงเรียน การจะเข้าไปได้นั้นต้องมีพาสปอร์ตด้วยนะ ^^





และเพราะเป็นโรงเรียนInter ก็เลยมีสอนประโยคภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
 
พร้อมเกมส์ให้เล่นในพาสปอร์ตด้วย^^ น่ารักดี

แล้วคุณลุงหน้าป้อมยามจะพาไปทัวร์รอบๆ ก่อนจบที่ห้องเรียนของ F4

ที่มีสมุดเยี่ยมชมให้เขียนถึงตัวละครโปรดของใครของมัน

งานนี้คุณนายคิมผู้หลงรักท่านยุนจนโงหัวไม่ขึ้นก็ถลาซบลงบนโต๊ะซอนเบคนดีทันที

อย๊ากกกก อยาก อยากเป็นคึมจันดีที่พี่จีฮูหลงรัก ทำไงดีหนอออออ


เราใช้เวลาเดินเล่นถ่ายรูปที่นี่ไปรอบๆได้สักสองชั่วโมงก็กลับ

เพราะกว่าจะถึงโซลก็เย็นย่ำ ..... ก็ที่นี่มันไกลน่าดูจริงๆนะเนี่ย

แล้วก็แผนผังทั้งโรงเรียน กว้างขวางใหญ่โตดีจริงเลยๆ




ก้าวที่ 4.2 เอเวอร์แลนด์ ดินแดนมหัศจรรย์


แต่เอเวอร์แลนด์รอบที่ 3 นั้น มันส์กว่าเยอะ!!


EVERLAND

สาย 2 สีเขียว สถานี Gyodae ทางออก 13

แล้วต่อรถเมล์สาย 1500 หรือ 1500-1 ก็ได้



เราออกจากบ้านมาเพื่อสละเวลาทั้งวันให้สวนสนุกแห่งนี้
ก้าวเข้าไปถึง โอ้ ว้าวววววววว ยังคงน่าตื่นตาตื่นใจเช่นเคย
และ ความตั่งใจอันมุ่งมั่นกับเจ้าเครื่องเล่น T-Express ก็สำเร็จในครั้งนี้จนได้
หลังเฝ้าดูชิลลางน้อยแข่งทำหน้าเป็นกับบูอินบนเจ้ารถไฟรางไม้นี่มานาน
ในที่สุดวันนี้ฟ้าฝนก็เป็นใจให้ได้ขึ้นจนได้
แม้แถวจะยาวเหยียดแต่อิ่มเอม จานิ และแอ๊ปปิ้ลไม่ย่อท้อ
เราต่อแถวไปเรื่อยๆและ...มันฟินมากๆเลยล่ะ
มันเป็นเครื่องเล่นที่ต้องระบุไว้ในตำนานเลย
ด้วยความที่เป็นรางไม้และสูงมากกกกกก ดิ่งมากกกกกก
มันเลยเพิ่มความหวาดเสียวให้แก่ผู้เล่นว่าไม้จะหักระหว่างทางไหม 555
ขึ้นไปนั่งได้ก็ท้ากับเพื่อนว่าเรามาแข่งทำหน้าตายกัน ใครจะชนะ .....
พอเครื่องเริ่มออกแล่นไปตามราง เราก็เก็กๆๆๆๆ ขรึมตลอดทาง
 
ถามว่ากลัวไม่ ไม่นะ มันน่าหวาดเสียวจริง ดิ่ง 90 องศามากจริงๆ
แต่มันกลับไม่น่ากลัวเลย สิ่งที่ทำให้รู้สึกว่า T-Express สนุกคือ
รางไม้ที่บางจุดเรี่ยดิน เหมือนหัวจะชนพื้น ชนไม้ ตรงนั้นอ่ะที่กลัว ฮ่าๆๆๆๆๆ
แล้วกำลังแล่นด้วยความเร็วสูง มันก็กระตุกๆ เป็นระยะ
เรียกความวูบวาบเข้าช่องท้องได้เป็นอย่างดี เลยหลุดหัวเราะก๊ากออกมาจนได้

               ลงเครื่องมาดูรูปที่ทางสวนสนุกถ่ายไว้ แพ้หลุดลุ่ย
               เพราะ ดันมาถ่ายติดตอนเราหัวเราะขำอ่ะซิ

                เอาเหอะ......ไว้มาแข่งกับเจ้าบ่าวน้อยใหม่ก็ได้ อิอิ
 
        
 

ก้าวที่ 4.1 เกาะนามิอีกแล้วจ้า


สถานที่แห่งแรกที่เรามากันคือเกาะนามิ ซึ่งทุกคนเคยมาแล้วยกเว้นแอ๊ป

ทริปนี้เราตั้งใจมากที่จะพาแอ๊ปกับหญิงเที่ยวให้ทั่วเกาหลีแบบที่ควรไปทุกที่
เพราะคนนึงไม่เคยมา มาแล้วต้องพูดได้เต็มปากว่าเคยไปมาหมดแล้วจ้า
ส่วนอีกคน เคยมา แต่ได้ความทรงจำไม่ดีกลับไป ต้องพามาล้างสมองซะหน่อย
 
เกาะนามิ :남이

ต้องเดินทางไกลหน่อย เริ่มจากสาย 1 สีน้ำเงิน สถานี Cheongyangi ทางออก 4 แล้วเลี้ยวขวาผ่านห้าง Lotte
 
เราไปต่อรถไฟสาย Mugunghwa (มูกุงฮวา) ที่จะพาเราไปยังเมืองชุนชอน
ที่ตั้งของเกาะนี้กัน เสียไปคนละ 3,900 วอน
และนั่งเจียนหลับไปชั่วโมงกว่าๆ เพราะไกลมากจริง
เราก็ได้มาลงที่สถานี Gapyeong กัน หลังจากนั้น เอ้า ต่อแท็กซี่ไปท่าเรือจ้า
แท็กซี่เกาหลีนั้นให้นั่งได้แค่ 5 คน รวมคนขับ

งานนี้เราเลยต้องหารสองคันตลอดเวลาใช้บริการ งบกระฉูดเพราะตรงเนี้ย -___-“


ใจตุ๊มๆต่อมๆ คิดกับตัวเองว่าจะรอดไหม เราจะพาน้องมาหลงหรือป่าว

ถึงจะเคยมาแต่ก็มากับทัวร์ ไม่เคยหาข้อมูลเอง ทำเองก็ไม่เคย

แต่ทันทีที่แท็กซี่จอดลงหน้าท่าเรือ เฮ้อออ โล่ง

เดินไปซื้อตั๋วเรือเตรียมข้ามเกาะให้ทุกคน เริ่มมั่นใจมากขึ้นกับการเดินทางครั้งนี้ วะฮ่าฮ่า

นามิซอมรอบที่ 3 ก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเพิ่มเติม คิคิ

เราอยู่ที่นี่กันจนเย็นก็กลับเข้าโซลเพื่อไปหาอะไรอร่อยๆกินกัน

ก่อนมิชชั่นคืนนี้จะตามมา คือ พาแอ๊ปเปิ้ลไปดักจุนนี่!!


เนื่องจากเป็นคืนครบรอบรายการ Music High ที่มีจุนนี่เป็นดีเจ

เราทั้ง 5 คนจึงไปถึง SBS เพื่อรอเวลาจุนนี่มา

แต่โชคดีว่าเราได้เจอคยูจงและจองมินด้วย ว้าววววว

ทริปนี้ของเหล่าพันยาดั๊บมาฟินๆจริงแหะ

แม้การรอจุนนี่ถึงตีสี่ ข้างถนนและท่ามกลางอากาศ 4 องศามันจะทรมานน่าดูก็เหอะ

แต่พอมองดูแอ๊ปเปิ้ลที่เกาะกระจกรถตู้ คุยกันเพียงลำพังกับจุนนี่

พี่ๆทั้ง 4 ก็ดีใจแทน ปลื้มปริ่มๆ

ก้าวที่ 4 : I’m Yours, Korea


นัดแนะกะแก๊งค์พลพรรครักไอซ์ ศรัณยูไว้ว่า เราไปเกาหลีกันเถอะ
เพราะอิ่มเอมและหญิงหญิงนั้นเมนจุง แอ๊ปเมนจุน จาเมนยองแซง เอิงเมนม้ามิน
....มาครบวงขนาดนี้ จะอยู่เฉยทำไม ไปตามหา SS501 กันดีกว่า

การเดินทางครั้งที่ 4 สู่ประเทศเกาหลีใต้ เป็นก้าวที่ทำให้อิ่มเอมเจ็บช้ำมากที่สุด เพราะอะไร?
เพราะเราเลือกซื้อตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พักจากบริษัททัวร์ที่หนึ่งและเราโดนโกง
เงินแสนสามหายไปในพริบตา
เป็นเดือนที่เราต้องวุ่นวายกับการนับหนึ่งใหม่เพื่อเริ่มต้นหาตั๋วเครื่องบิน หาที่พักใหม่
และเป็นปีที่เราต้องติดตามคดีของเราว่าเมื่อไรกันหนอ
ที่เราจะได้เงินของเราคืนกลับมา

 
 
แม้อุปสรรคจะมาก แต่ความ “อยาก” ของเรามันมากกว่า
หลังจากเตรียมทุกอย่างพร้อม
คืนวันที่ 11 เมษายน 2554 เราทั้งห้าก็ใช้บริการสายการบิน เจจูแอร์
เพื่อเดินทางไปยังเกาหลีใต้ สายการบิน Low Cost น่ารักๆ
ที่ขาไปเราไม่รักเอาซะเลย

เพราะบนเครื่องเป็นกรุ๊ปทัวร์ทั้งนั้นและไม่รู้ว่าเป็นวันเด็กแห่งชาติหรือไร
ทั้งแอร์ทั้งสจ๊วตถึงเอาลูกโป่งมาวางเต็มเคบิน เล่นเกมส์ไม่เลิก
และมีเด็กๆหัวเราะตลอดทั้งคืน ทำเอานอนหลับไม่ได้
กว่าเครื่องจะลงจอดที่อินชอนก็ทำเอาพวกเราเป็นซอมบี้กันไปเลยทีเดียว




มาถึงด่าน ตม. ก็ถอนใจเฮือกใหญ่ กรุ๊ปทัวร์ลงพร้อมกันหลายลำ
(อย่างว่า วันหยุดยาวอ่ะนะ มากันเพียบ)
คนเยอะจนกว่าจะผ่านไปได้แต่ละคน
ไม่เคยใช้เวลาตรงนี้นานเป็นชั่วโมงขนาดนี้มาก่อน
เก้าโมงกว่าเราก็ยังไม่ได้ประทับตรา

หญิงหญิง เอิง และจานั้นเคยมาแล้วจึงแยกไปยืนคนละแถว
ส่วนแอ๊ปผู้ซึ่งออกนอกประเทศเป็นครั้งแรก แถมวิตกกังวลเรื่องภาษาเลยเกาะเราเป็นตังเม
ยิ่งคนข้างหน้าตรวจนาน แอ๊ปยิ่งใจเสีย
ยิ่งอีกคนโดนส่งเข้าห้องสัมภาษณ์ แอ๊ปยิ่งผวา ผลักเราไปยืนต่อคนนั้นทันที
......อิ่มเอมผู้ซึ่งไม่ตระหนกภาษา และเคยมาบ่อยกว่าใครจึงเฉยๆ
เดินไปวางพาสปอร์ตดังแปะแล้วยิ้งแป้นใส่หน้าเจ้าหน้าที่ “อันยองฮาเซโย”
ทักใส่เลย ตม.หนุ่มใหญ่ เงียบ....ไม่ตอบ....หนอย ไร้มารยาท อิลุงนี่
เฮียแกก็ไม่ได้พูดอะไร เปิดเล่มไปมาแล้วประทับตราดังตึง ปล่อยผ่าน
เราหันไปยักคิ้วให้แอ๊ปทีหนึ่ง แล้วถอยออกมา
แอ๊ปเดินเข้ามาเป็นคนต่อไป ยืนทำหน้าแบ๊วๆแสดงความบริสุทธิ์ใจสุดฤทธิ์
ซึ่งมันได้ผล นางผ่านมาอย่างไร้คำถาม
เมื่อทุกคนออกมาได้เรียบร้อยก็เดินไปรับกระเป๋าพร้อมกับเม้าท์คนที่โดนจับสัมภาษณ์

ทิป : มา ตม.เกาหลี แต่งตัวดีๆ แต่อย่าดีเว่อร์ มันพิรุธจ้า


คนที่โดนแช่เย็นเนี่ย มากะคนที่โดนถามนานๆเนี่ยแหละ
ซี่งทั้งสองคน(และอาจมีคนอื่นด้วย แต่เราเห็นสองคนไง ยืนแถวเดียวกัน)
แต่งตัวเหมือนไปทำงาน กระโปรงสูทอย่างดี สุภาพจัดๆ
คือ เราเป็นนักท่องเที่ยว แม้จะเคยได้ยินมาว่าให้แต่งตัวสุภาพผ่านด่าน
แต่เราก็มาท่องเที่ยว เอาให้คล่องตัว
แต่อย่าถึงขั้นรองเท้าแตะเก่าๆ กางเกงยีนส์ขาดๆ หรือขาสั้นเกิ๊นนน
บวกเกาะอก สายเดี่ยว โชว์เนื้อหนัง
..... เอาสบายๆแบบคนไปเที่ยว (กลางวันนะ ไม่ใช่เที่ยวกลางคืน)
แค่นี้เราก็ผ่านได้แล้ว
 
แต่สตรีทั้งสองจัดเต็มมาก แถมพูดอังกฤษกระท่อนกระแท่น
หน้าตาก็.....ชวนสงสัย จึงเป็นไปตามประการนี้แล
ออกมาได้ วันนี้เราจองรถจากที่พักให้มารับเพราะคำนวณค่าใช้จ่ายแล้วว่า
ถูกกว่าและสะดวกกว่า
ลุงคนขับมารอแล้วเรียบร้อย พอก้าวพ้นสนามบินอินชอนออกไป โอ๊ะ คุณพระ เย็นเว้ยเฮ้ย
.....นี่มันเมษาแล้ว ทำไมอากาศยังเย็น มองหน้ากันเลิ่กลั่ก ยิ้มกริ่ม หนาวไม่กลัว กลัวไม่หนาวจ้า
ที่พักของเราอยู่กลางเมืองใกล้เคียงบกกุงและพระเจ้าเซจง
เป็นห้องใหญ่กว้างขวาง มีชั้นลอย ราคาน่ารัก
เจ้าของก็ดี เราเข้ามาได้ล้างหน้าล้างตาเราก็ออกไป.......เที่ยว