วันนี้มากินไก่นักเลง (อีกแล้ว) ที่สาขาเพื่อนอ้วน ...... อากาศวันนี้
16 องศา เย็นกำลังดี ติดหนาวนิดๆ
ร้านวันนี้คนเต็มทุกโต๊ะ
แต่ก็ยังอุตส่าห์ว่างตัวหนึ่งให้เราสองเพื่อนซี้ได้หย่อนตัวลงเมนูวันนี้คือ Jaksal Mild Chicken และ เครันมารี ...... ที่เพื่อนผู้มารับออเดอร์ถามว่าใส่ชีสไหม
อืมมมมมม จะลองสักทีก็ดีนะ จัดมา ไข่ม้วนใส่ชีส
และน้ำเปล่าจ๊ะ เพราะ ไม่หาญกล้ากินโซจู ส่วนน้ำพีชหอมๆที่แม่ของจุงแนะนำมาก็ไม่มีด้วย
จริงๆเพื่อนอยากกินไข่ตุ๋น แต่สาขานี้ก็ไม่มี
สรุป สาขาแม่มีไข่ตุ๋นและน้ำพีช
สาขาเพื่อนอ้วนมีไข่ม้วนและไม่มีน้ำพีช 555
อาหารมา เราจ้วงกันอย่างรวดเร็ว หิวมาก และเหนื่อยจากการใช้พลังที่ล็อตเต้เวิล์ดมาทั้งวันด้วย
กินไป คุยไป ราวๆ 4 ทุ่ม เพื่อนก็กระซิบ “แกๆ คนข้างหลังแก เหมือนคยูจงเลยอ่ะ”
เราหันกลับไปมอง ผู้ชายที่นั่งด้านหลัง เค้าใส่เสื้อคลุมสีเขียวขี้ม้าและสวมหมวก และหันหน้ามาพอดี
มองไปเต็มหน้าจังๆ
หันกลับมาหาเพื่อน .......”ใช่เหรอ” ...... จำไม่ได้ค่ะ 55555555555555555555555555
ปกติก็จำหน้าคยูได้นะ แต่แบบว่าผมสั้น ใส่หมวก แก้มยุ้ย ใครอ่ะ ไม่คุ้น
เราเป็น Henecia ไม่ใช่ thanKyu จึงไม่สามารถแยกแยะได้ภายใน 1 วินาที
(ถ้าเป็นพ่อคนนั้น แค่เสี้ยววินาทีก็รู้แล้วล่ะ....เว่อร์)
เพื่อนเริ่มลังเล มันไม่ไว้ใจสายตาตัวเองเท่าความทรงจำสะเปะสะปะของเรา
แต่มันยังย้ำ “ใช่แหละแก”
เราก็ทำหน้ามึนๆใส่กลับไป ทันใดนั้น ออนนี่โต๊ะข้างๆก็กระเถิบมานั่งด้วยทันที เฮ้ยยย ไวไป
แล้วบอกว่า “คยูจงอิดะ ทวิตเตอร์ อันเด” แปลได้ว่า ใช่คยูจง แต่ห้ามทวิตนะ ห้ามบอกใคร เราก็ อ๋อออ ค่ะ
แล้วออนนี่ก็พูดอะไรเยอะแยะ ที่เรานั่งกระพริบตาฟัง และตอบไปในที่สุดว่า I don’t understand
งง
ออนนี่มีมึนงงไปชั่วขณะจิต แล้วตัดสินใจถามว่า นิฮงโกะ วะ ไดโจวบุ?เสร็จโจร เรา ไฮ กลับไป แล้วหลังจากนั้นก็คุยกับออนนี่เป็นภาษาญี่ปุ่นตลอดเลย 555555
เป็นบุญ ที่พูดภาษาญี่ปุ่นได้ทั้งคู่ ไม่งั้นจบเห่ตรงนั้นแหละนะ
ออนนี่บอกว่า ห้ามทวิต หรือ ห้ามบอกใครในโซลตอนนี้เลยว่าคยูอยู่ที่นี่ตอนนี้
ไม่งั้นคนจะแห่กันมา เราก็พยักหน้ารับ
แต่มือหยิบมือถือขึ้นมา ออนนี่รีบถาม จะทำอะไร
“จะบอกพี่ที่เมืองไทยอ่ะ ได้ป่าว”
ออนนี่พยักหน้ารับว่าได้ อะเคร ส่งสารบอกพี่สาวเมนคยู
ว่าใครเก๊าะไม่รู้ อยู่ร้านไก่ตอนนี้
พี่กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด ยาวๆกลับมา อยากหายตัวมา ณ บัดนาวแล้วความโกลาหลก็เกิดขึ้นใน Line ...... -_____-“
คยูจงมากะใครไม่รู้ ผู้ชายใส่แว่น
นั่งๆไป สักพักมีคนโทรมาคยูก็เดินออกไป หายไปพักใหญ่
เราซึ่งตกลงใจว่าจะนั่งเฝ้าเมนให้พี่สาวเลยถามหาโซจูมากินแก้หนาว
แล้วตามด้วยอาการหันรีหันขวาง อยากเข้าห้องน้ำ
อากาศเย็น ใส่กางเกงขาสั้นมา ขนลุกเกรียวทีเดียวนะ
ลุกเดินมาหน้าร้าน คยูจงกลับมาพอดี กับเมเนเจอร์และผู้หญิง 1 คน ย้ำ ใครไม่รู้หรอกนะ
สวนกันหน้าร้าน โดยมิได้ตั้งใจแต่สบตาพอดี คยูจงส่งยิ้มให้
.............ไม่ใช่เมน แต่มีชะงักอ่ะคุณ ปัดโธ่ ยิ้มมาซะน่ารัก
พ่อคนมารยาทดี...............
กลับมาอีกที โต๊ะคยูเต็มไปด้วยคน 4 คน โซจูไม่ระบุจำนวนขวด ไก่ 1 จาน
หม้อไฟ 1 หม้อนั่งกันไป นั่งกันยาวไป
อิฉันเริ่มมึนโซจู เริ่มหัวเราะเรื่อยๆ หนาว อยากกลับบ้าน กลับไม่ได้ นั่งเฝ้าเมนพี่สาว
ออนนี่โต๊ะข้างๆถามว่าไหวไหม หน้าแดงแล้ว ตอบไปชัดเจน “ไม่ไหวค่ะ ง่วง” 5555
เที่ยงคืนครึ่งเข้าไปแล้ว เพื่อนอ้วนเดินมาส่งบิลให้ บอกว่าร้านใกล้ปิดแล้ว จ่ายไป จ่ายไป
แต่ไอดอลมักไม่มีเงินสด งานนี้หมีคยูควักบัตรขึ้นมารูด
ว้ายยย หน้าตาดีไม่มีเงินสดอีกคนล่ะ
จำได้ว่าตอนบังเอิญไปเจอจุงเดินช้อปปิ้งที่ไอปาร์คคราวนั้น
พ่อเจ้าประคุณก็รูดบัตร แม้กระทั่งกับแผ่นโปรแกรมราคาไม่กี่พันวอน 555
(คิดถึงจุงจังเลยอ่ะ)
จ่ายเงินแล้ว ก็หามีใครลุกออกจากร้านไม่
ตีหนึ่ง เพื่อนอ้วนก็เดินมายืนทำหน้าสุขุมข้างโต๊ะ
พอเราเงยหน้ามึนๆมองเพื่อนก็บอกว่า “Sorry, ByeBye”
แล้วทำหน้าแป้นแล้นส่งมาให้ ชะ!!
เป็นการไล่แบบสุภาพ และห้วนสั้นที่สุด
เราไปก็ได้ ออนนี่และเพื่อนๆก็ลุกเหมือนกัน
มีไม่ลุกอยู่โต๊ะเดียว แต่เขาเป็นใครล่ะ เขานั่งได้
เราไปห้องน้ำกันเหอะ
ออกจากห้องน้ำมาอีกที มองตรงไปข้างหน้า เอ๊ะ คุ้นๆ ก้าวตามไป กระซิบตามหลังเหมือนทำพิธี
คยูจงชีๆ ขอถ่ายรูปหน่อย คยูจงชีๆ ขอถ่ายรูปหน่อย
คยูและอีก 3 หน่อ เดินหัวเราะไปตามทาง มีเราเดินตามมาเรื่อยๆ ไม่กล้าเรียก
แล้วคยูจงก็หยุดเดิน เอ๊ะ พิธีเราได้ผลหรอ??
ป่าวเลย มีคนเรียกไว้
เป็นแฟนคลับอีกสองคนที่มาที่ร้านเหมือนกัน เขามาขอลายเซ็น
เราสองคนรีบปรี่เข้าไปเนียนด้วยทันที
คยูน่ารักตรงไหน?
ตรงที่สองสาวเกาหลีนั้น โทรหาเพื่อนแล้วยื่นให้คยูคุยด้วย คยูก็คุย
อ๊ากกกกกก อยากกดโทรศัพท์หาพี่บ้าง อยากๆๆๆ
แต่พี่คงคุยไม่รู้เรื่องเนอะ
คยูจงเอามือประคองโทรศัพท์ตลอดเวลา มารยาทดีเหลือเกินคนนี้
แล้วออนนี่ก็ตามมาเห็นเราพอดี ถามว่าจะทำอะไร
เราเลยบอกว่าอยากถ่ายรูปไปฝากพี่สาว
ออนนี่ก็ใจดี หันไปบอกว่า คยูจงชี แทกุกแพน ...... ตึง!!!
(คือตอนอยู่ในร้านอ่ะ คยูมองมาเป็นระยะ เราก็พยายามพูดญี่ปุ่นไง
ให้เข้าใจไปซะว่าเป็นคนญี่ปุ่น - - แม้หน้าไม่ให้ - - เพราะน่าจะสื่อสารง่ายกว่า
และแถมบางที ว่ากันตามตรงแล้ว พอเป็นแฟนญี่ปุ่น มักจะได้รับอภิสิทธิ์กว่า
จริงไหมล่ะ)
ขนาดเพื่อนจุง ยังคิดว่าเราเป็นคนญี่ปุ่นเลย
ก่อนออกจากร้านก็มาลาเราเป็นภาษาญี่ปุ่น
ความมาแตกตอนออนนี่บอก แทกุกแพน 555555555
คยูจงถามว่าเอาลายเซ็นไหม ...... ไม่เอาถ่ายรูปคู่เหรอ ........ ไม่เอา
คยูเกิดอาการมึน สองคนนี้จะอะไรยังไงแน่ หยิ่งแท้ 5555555
คือเราแค่อยากได้รูปเดี่ยวสวยๆสักใบให้พี่สาวน่ะ
เราไม่ใช่เมนคยูจง เพื่อนเราก็สาวกยองแซง
สองคนเลยไม่รู้จะถ่ายรูปคู่กับพี่หมีคนดีไปทำไม ถ่ายไปก็ไม่ฟิน
กำลังหยิ่งได้ที่ เมเนเจอร์ก็เข้ามาแก้สถานการณ์ด้วยการคว้าไอโฟนไปจากมือ
อ๊ะๆๆๆ เอาไปไหน
แล้วบอกว่าถ้าจะถ่ายก็ถ่ายทั้งสามคน เข้าไปในเฟรมให้หมดนั่นแหละ
แหง่ะ........บังคับอ่ะ
คยูจงขยับจะถอดหมวก พี่เจ้อบอกไม่ต้อง คยูจงเอื้อมมือมาสองข้างจะโอบ พี่เจ้อบอกยืนนิ่งๆ
เฮ้ยเว้ย!!! พี่เจ้อเรื่องเยอะนะ
สุดท้าย ก็ได้แต่ยิ้มมุมปากกันไป แล้วออกมาแชะหนึ่ง
รูปออกมา สองคนดูหยิ่งมากจริงๆ 55555555555555555555555555555555555
ในขณะที่คยูจงมองไปที่เคสไอโฟนตาแป๋ว ....... ท่านอุซุชินตัวเบ้อเริ่ม
ได้แต่ส่งสายตาขอโทษไป
เค้ามาถ่ายกะตัวเอง แต่เค้ารักพี่ชายตัวเองอ่ะ ตัวเองเข้าใจเค้าใช่ป่ะคยู
พึมพำ “ขอบคุณค่ะ” ไป ..... หมดอารมณ์แอ๊บเป็นสาวปุ่น แถมลืมพูดเกาหลีอีก
แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ คยูจงพนมมือนิดๆว่าขอบคุณเช่นกัน
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด น่ารักเว่อร์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ถึงตอนนี้สติมา หันไปโบกมือหยอยๆให้แล้วพูดเสียงดังฟังชัดว่า “ชัลจาโย”หมีคยูยิ้มส่งมาอีกที แล้วโบกมือกลับมาให้
แอ๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก น่ารักเน้อออออ
หลังจากนั้นก็เดินไปขึ้นแท็กซี่กลับบ้าน ในขณะที่คยูจงและอีก 3
หน่อเดินข้ามสะพานลอยไป
จบตื่นเช้ามา ปวดหัวมาก แฮงค์แล้วก็เจ็บใจด้วย ..... ผู้ชายตรู อยู่ไหนฟะ???
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น